วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus) หรือเรียกสั่นๆว่าไวรัส คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บุกรุกเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช่ ส่วนมากมักจะพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างความเสียหายให้กับระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆซึ่งแบ่งออกเป็น6ประเภท ดังนี้
1.ไวรัสพาราสิต (parasitic  virus) ไวรัสประเภทนี้จะเริ่มทำงานและจำลองตัวเองเมื่อมีการเรียกใช้งานไฟล์ที่ติดไวรัสคอมพิวเตอร์ส่วนมากเป็นประเภทนี้
2.ไวรัสบูตเซกเตอร์ (boot sector  virus) ไวรัสประเภทนี้จะฝังตัวอยู่ในบูตเซกเตอร์แทนที่คำสั้งที่ใช่ในการเริ่มต้นการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นใช้งาน ไวรัสประเภทนี้จะโหลดตัวเองเขาไปที่หน่อยความจำก่อตนที่จะโหลดระบบปฏิบัติการ หลังจากนั้นจะเป็นสำเนาตัวเองไปฝังอยู่กับไฟล์อื่นๆด้วย
3.ไวรัสสเตลท์ (stealth virus) ไวรัสประเภทนี้เป็นไวรัสที่มีความสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้อยู่ในรูปแบบที่โปรแกรมป้องกันไวรัสต่างๆตรวจไม่พบ และเมื่อไปติดกับโปรแกรมได้แล้ววจะทำให้โปรแกรมนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
4.ไวรัสโพลีมอร์ฟิก (polymorphic  virus) ไวรัสประเภทนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกครั้งที่ติดต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์  ซึ่งจะส่งผลให้ไวรัสประเภทนี้ตรวจพบได้ยาก
5.ไวรัสแมโคร (macro  virus) ไวรัสประเภทนี้จะมีผลกลับ  Macro  Application (มักจะพบในโปรแกรมประเภท Word  Processors) เมื่อผู้ใช้เรียกใช้ไฟล์ที่มีไวรัสติดมาด้วย จะทำให้ไวรัสไปฝังตัวในหน่วยความจำจนเต็มซึ่งจะทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้าลง และอาจส่งผลเสียกับข้อมูลที่เก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ได้
6.หนอนอินเทอร์เน็ต (worms) เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่สามารถติดต่อทางอินเทอร์เน็ตได้สามารถ แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว  โดยไวรัสชนิดนี้จะคัลลอกตัวเองซ้ำแล้วใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการแพร่กระจายซึ่งโดยทั่วไปจะมากับอีเมล  ตัวอย่างของหนอนอินเทอร์เน็ต  คือ  Adore  โดยจะทำการค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการ  Linux  หลังจกนั้นจะสร้างช่องทางในคอมพิวเตอร์เพื่อให้แฮกเกอร์(hacker)สามารถไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นได้
  ที่มา:เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ม.2


วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สู้เพื่อแม่

เรื่อง สู่ เพื่อ แม่ 

รักประเสริฐอันล้ำเลิสของมารดา
จะหาไครมาเปรียบเทียนบก็ไม่เท่า
แม่เลี้ยงดูเป็นผู้ให้กำเนิดเรา 
ลูกขอก้มกราบแทบเท้าคุณแม่เอย

             กลอนบทนี้เป็นส่วนหนึ่งของพระคุณของแม่ที่มีให้เรา ซึ่งยังมีอีกมากมายที่บอกเท่าไหร่ก็
ไม่หมดและจะหาไครมาเปรียบเทียบก็ไม่เท่าแม่ของเราเองผู้ที่มีบุญคุณกับเรามากกก

             แม่เป็นคนที่มีพระคุณต่อเรามากตั้งแต่เรายังไม่เกิดแม่เป็นผู้ให้กำเนิดเราแม่ต้องลำบากอุ้มท้อง เรามา9เดือนจะนอนก็ลำบากจะนั้งก็ไม่ถนัดจะทำอะไรก้ไม่ถนัดลำบากปวดหลังเมื่อยเหนื่อยแค่ไหนแม่ก็ไม่เคยบ่นเลยและแถมแม่ยังเต็มใจที่จะทำเพื่อเรา ในวันที่เราต้องลืมตาออกมาดูโลกนั้นเป็นเวลาที่แม่เจ็บปวดรวดราวเพราะเขาต้องคลอดเราออกมาและแม่บางคนอาจจะต้องถึงตายเพราะคลอดลูกไม่ได้
พอแม่คลอดเราออกมาแม่ก็้องเจ็บเพราะแม่จะต้องให้นมเรากินในตอนเด็กแต่แม่ก็ยังไม่เคยบ่นเลยและแม่ยังต้องคอยเช็ดขี้เช็ดชี่เช็ดอ้วกให้เราอีกด้วยแระยังจะต้องหาข้าวให้เรากินในวัยเด็กทั้งอาบน้ำ แต่งตัว ป้อนข้าว แล้วค่อยดูแลเราในเวลาที่เราไม่สบายปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้แม่ก็คอยอยู่ข้างเราค่อยเช็ดตัวให้คอยป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยาให้กับเราพอตอนที่เราเข้าโรงเรียนแม่ก็ต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเช่นเคยกลับบ้านมาแม่ก็ต้องค่อยมาสอนกานบ้านอบรมเราสอนเราให้เป้นคนดีไม่เกเรไม่แกล้งคนอื่นตั้งใจเรยนเชื่อฟังคุณครู พอเราโตเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นแม่ก็จะไม่ค่อยเขามายุ่งกับเรามากนักแต่เขาก็จะค่อยดูแลเราอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆคอยไห้คำปรึกษาเราในเรื่องต่างๆๆสอนเราอบรมเราถึงแม้ว่ามันจะดูน่าลำคานไปหน่อยแต่ที่แม่ทำเพราะหวังดีกับเราและอยากให้เราเป็นคนดีและที่เขาดุเขาว่าก็เพราะอยากให้เราเป็นคนดีและมีอนาคตที่ดีและการทำดีเพื่อแม่เราไม่จำเป็นต้องทำในวันแม่เราควรทำกับทุกๆวันแระทำเป็นประจำเราควรตอบแทนความรักจากแม่กตัญญูกับแม่เป็นเด็กดีก่อนที่อะไรจะสายจนเกิดไป.

           แม่เป็นคนที่มีแต่ให้และเป็นคนที่มีพระคุณกับเรามากและเราควรทำดีและตอบแทนความรักจากแม่กตัญญูกับแม่เป็นเด็กดีของท่าน และไม่ควรเถียงแม่หรือทำให้แม่เสียใจในเรื่องต่างๆเพราะถ้าตอนนั้นไม่มีแม่เราก็ไม่สามารถเกิดมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้เชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านก่อนที่จะสายจนเกินไปเราจะมาเรียกแม่เท่าไหร่บอกรักท่านเท่าไหร่เขาก็ไม่สามารถรับรู้ได้อีกแล้ว

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

งานการปลูกผักของฉัน


การปลูกผักของฉัน

  ผักที่ฉันปลูกคือตะไคร้ เป็นการปลูกแบบในน้ำเป็นงานที่อาจารให้ทำส่งในวิชาคอมพิวเตอร์
เพื่อที่จะใปทำงานในคอมพิวเตอร์ การปลูกผักในน้ำเป็นวิธีที่ง่ายและไม่เปลืองเนื้อที่ใช่พื้นที่
  น้อยและไม่ยุ้งยากในการปลูกผักมีวิธีการปลูกคือ 1นำต้นตะไคร้ที่ไม่ใช่แล้ว 2เตรียมน้ำใส่แก้ว
3ใส่ตะไค้ทิ้งไว้ในแก้วน้ำแล้วสังเกตผลประมาณ14วันต้นไม้ก็มีรากงอกและโตขึ้นตามปกติ

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เครือข่ายคอมพิวเตอร์


เครือข่ายคอมพิวเตอร์

 เครือข่ายคอมพิวเตอร์
                 การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทและความสำคัญเพิ่มขึ้น เพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น เพิ่มการใช้งานด้านต่าง ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง มีการแบ่งใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกันได้
สิ่งสำคัญที่ทำให้ระบบข้อมูลมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น คือ การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน และการเชื่อมต่อหรือการสื่อสาร การโอนย้ายข้อมูลหมายถึงการนำข้อมูลมาแบ่งกันใช้งาน หรือการนำข้อมูลไปใช้ประมวลผลในลักษณะแบ่งกันใช้ทรัพยากร เช่น แบ่งกันใช้ซีพียู แบ่งกันใช้ฮาร์ดดิสก์ แบ่งกันใช้โปรแกรม และแบ่งกันใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีราคาแพงหรือไม่สามารถจัดหาให้ทุกคนได้ การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายจึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กว้างขวางและมากขึ้นจากเดิม
การเชื่อมต่อในความหมายของระบบเครือข่ายท้องถิ่น ไม่ได้จำกัดอยู่ที่การเชื่อมต่อระหว่างเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ แต่ยังรวมไปถึงการเชื่อมต่ออุปกรณ์รอบข้าง เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้การทำงานเฉพาะมีขอบเขตกว้างขวางยิ่งขึ้น มีการใช้เครื่องบริการแฟ้มข้อมูลเป็นที่เก็บรวบควมแฟ้มข้อมูลต่างๆ มีการทำฐานข้อมูลกลาง มีหน่วยจัดการระบบสือสารหน่วยบริการใช้เครื่องพิมพ์ หน่วยบริการการใช้ซีดี หน่วยบริการปลายทาง และอุปกรณ์ประกอบสำหรับต่อเข้าในระบบเครือข่ายเพื่อจะทำงานเฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง ในรูป เป็นตัวอย่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่จัดกลุ่มเชื่อมโยงเป็นระบบ

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เศรษฐกิจพอเพียง

หอมแผ่นดิน ตอน เลือกทางฝัน


พัชรี เอี่ยมประชา ล้มเหลวจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยว หันกลับมาสู่วิธีเกษตรที่พยายามพึ่งพาตนเอ­ง เลิกใช้สารเคมี เลือกปลูกพืชที่ต้นทุนการผลิตน้อย โดยเริ่มจากพืชผักสวนครัว และก้าวเข้าสู่การปลูกกุยช่าย พืชที่ล



                                      ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=6CEVBA5LP2U
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หอมแผ่นดิน ตอน...หัวใจไร้สาร


คนกลุ่มเล็กๆ ในชุมชนบ้านฝั่งคลอง ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม รวมตัวกันปลูกผักอินทรีย์ 
"ถ้าดินตาย น้ำตาย ธรรมชาติขาดความอุดมสมบูรณ์ นั่นหมายถึงว่า ชีวิตการเกษตรของพี่น้องประชาชนจะอยู่ไม่ไ­ด้" 
จำปี เล็กมาบแค และเพื่อนบ้านหันมาทำเกษตรอินทรีย์ เพราะการเรียนร็ ดูงาน ทำให้รู้ว่าเกษตรอินทรีย์ เป็นทางเลือกที่ยั่งยืน


ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=zeUql2ym4pI
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หอมแผ่นดิน ตอน...ทางสายนี้ ที่พ่อเดิน



ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=d9XQrC8Lq74

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เศรษฐกิจพอเพียง

เศรษฐกิจพอเพียง  
  “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิต
แก่ พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า ๒๕ ปี ตั้งแต่ก่อนวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรง
เน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์
และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
     เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับ
ครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะ
การพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์
     ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี
พอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน

ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ความรอบคอบและความระมัดระวังอย่างยิ่ง 
ในการนำวิชาการต่างๆมาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุก
ขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐนักทฤษฎีและ
นักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วย
ความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี

    ประมวลและกลั่นกรองจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่ง
 พระราชทานในวโรกาสต่าง ๆ รวมทั้งพระราชดำรัสอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 
โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำไปเผยแพร่ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ 
เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของทุกฝ่ายและประชาขนโดยทั่วไป


ข้อมูลจาก

คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ที่มาhttp://www.eto.ku.ac.th/s-e/mean-th.html
                 ที่มาhttp://www.maelao.ac.th

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ซอฟต์แวร์ (Software) คืออะไร

ซอฟแวร์
ซอฟต์แวร์ (Software) คือ โปรแกรมหรือชุดคำสั่ง ที่จะสั่งและควบคุมให้ฮาร์ดแวร็คอมพิวเตอร์ทำงาน เราไม่สามารถจับต้อง ซอฟต์แวร์ ได้โดยตรงเหมือนกับตัวฮาร์ดแวร์ เพราะซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมนี้จะถูกจัดเก็บอยู่ในสื่อ ที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล เช่น แผ่นดิสก์ ซอฟต์แวร์ ที่มักติดตั้งไว้ในฮาร์ดดิสก์เพื่อทำงานทันที่ที่เปิดเครื่องคือ ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ สรุปแล้ว ซอฟต์แวร์ คือ โปรแกรมชุดคำสั่งไว้ควบคมคอมฯให้ทำงาน
1.  ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) คือโปรแกรมที่ใช้ในการควบคุมระบบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เช่น การบูตเครื่อง การสำเนาข้อมูล การจัดการระบบของดิสก์ ชุดคำสั่งที่เขียนเป็นคำสั่งสำเร็จรูปโดยผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีมาพร้อมแล้วจากโรงงานผลิต การทำงานหรือการประมวลผลของซอฟต์แวร์เหล่านี้ขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องระบบของซอฟต์แวร์เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อการปฏิบัติควบคุม และมีความสามารถในการยืดหยุ่นการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ
- โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System) เป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคุมและติดต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจัดการระบบของดิสก์ การบริหารหน่วยความจำของระบบ กล่าวโดยสรุปคือ หากจะทำงานใดงานหนึ่งโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการทำงานแล้วจะต้องติดต่อกับซอฟต์แวร์ระบบก่อน ถ้าขาดซอฟต์แวร์ชนิดนี้จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานได้ ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้แก่ โปรแกรมระบบปฏิบัติการ DOS Unix Windows (เวอร์ชั่นต่าง ๆ เช่น 95 98 me 2000 NT) Sun OS/2 Warp Netware และ Linux
- ตัวแปลภาษาจาก Source Code ให้เป็น Object Code (แปลจากภาษาที่มนุษย์ใจให้เป็นภาษาที่เครื่องเข้าใจ เปรียบเสมือนล่ามแปลภาษา) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter) คอมไพเลอร์จะแปลคำสั่งในโปรแกรมทั้งหมดก่อนแล้วทำการลิ้ง (Link) เพื่อให้ได้คำส่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ ส่วนอินเตอร์พีทเตอร์จะแปลทีละประโยคคำสั่งแล้วทำงานตามประโยคคำสั่งนั้น การจะเลือกใช้ตัวแปลภาษาแบบใดนั้นจะขึ้นอยู่กับภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น ภาษาเบสิก (Basic) ภาษาปาสคาล (Pascal) ภาษาซี (C) ภาษาจาวา (Java) ภาษาโคบอล (Cobol) ภาษา SQL ภาษา HTML เป็นต้น
- ยูทิลิตี้โปรแกรม (Utility Program) คือ ซอฟต์แวร์เสริมช่วยให้เครื่องทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลในดิสก์ ช่วยสำเนาข้อมูล ช่วยซ่อมอาการชำรุดของดิสก์ ช่วยค้นหาและกำจัดไวรัส ฯลฯ เป็นต้น โปรแกรมในกลุ่มนี้ได้แก่โปรแกรม Norton WinZip Scan virus Sidekick Scandisk Screen Saver ฯลฯ เป็นต้น
- ติดตั้งและปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการติดตั้งระบบเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและใช้งานอุปกรณ์ต่า ๆ ที่นำมาติดตั้งระบบ ได้แก่ โปรแกรม Setup และ Driver ต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Setup Windows Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver Sound Driver CD-ROM Driver Printer Driver Scanner ฯลฯ เป็นต้น
2.  ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้งานเฉพาะด้านหรือเฉพาะองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ซอฟต์แวร์ประเภทนี้มักสร้างขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ที่มีความชำนาญด้านนั้น ๆ โดยเฉพาะ หรือออกแบบและสร้างโดยบุคลากรในฝ่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กรก็ได้ ต้องมีทีมงานในการดำเนินการวิเคราะห์และออกแบบระบบงานอย่างรอบคอบ เมื่อออบแบบระบบงานใหม่ได้แล้ว จึงลงมือสร้างโปรแกรมจนเสร็จ แล้วทำงการทดสอบโปรแกรมให้สามารถทำงานได้ถูกต้องแน่นอน จนสามารถทำงานได้จริง ตัวอย่างซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้แก่ ซอฟต์แวร์ด้านงานบุคลากร ซอฟต์แวร์ระบบงานบัญชี ซอฟต์แวร์ระบบสินค้าคงคลัง ซอฟต์แวร์ของการรถไฟ ซอฟต์แวร์ของธุรกิจธนาคาร ซอฟต์แวร์ของธุรกิจประกันภัย ซอฟต์แวร์ของการบินไทย ซอฟต์แวร์บริหารการศึกษาเป็นต้น
3.  โปรแกรมสำเร็จรูป (Package Software) คือ ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในสำนักงานทั่ว ๆ ไป สร้างโดยบริษัทที่มีความชำนาญในด้านนั้น ๆ โดยเฉพาะมีการปรับปรุงรุ่น (Version) ของซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธภาพสูงขึ้นอยู่เสมอ สามารถแบ่งออกเป็นประเภท ตามลักษณะหน้าที่การทำงานได้ดังนี้คือ
- โปรแกรมประมวลผลคำ ใช้สำหรับพิมพ์เอกสารรายงานหรือสร้างตารางแบบต่าง ๆ
- โปรแกรมตารางงาน ใช้สำหรับคำนวณ สร้างกราฟ และจัดการด้านฐานข้อมูล
- โปรแกรมนำเสนอผลงาน ใช้ในการนำเสนอผลงานและนำเสนอข้อมูลในรูแปบบสไลด
- โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล คือ โปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการจัดการฐานข้อมูล
- โปรแกรมเว็บเพจ ใช้ในการเขียนเว็บเพจเพื่อใช้งานในเว็บไซต์ของอินเทอร์เน็ต
- โปรแกรมสื่อสารระยะไกล ใช้ในการติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต
- โปรแกรมเขียนแบบ ใช้ในการออกแบบและเขียนแบบด้านต่าง ๆ เช่น ชิ้นงาน อาคาร
- โปรแกรมการฟิกส์ ใช้ในการสร้างและจัดการรูปภาพในคอมพิวเตอร์
- โปรแกรมเพื่อความบันเทิง ได้แก่ เกมส์ ภาพยนต์และเสียงเพลงต่าง ๆ

ที่มา http://www.dekdev.com